การทำเรื่องจดทะเบียนสมรสที่ไทย มีทั้งผ่านไปได้อย่างราบรื่นและมีพบเจอปัญหา แต่สำหรับผมน่าจะมีปัญหาซะมากกว่าครับ
ครั้งที่แล้วที่ตั้งใจไปจดทะเบียนสมรสวันวาเลนไทน์ก็ไม่สำเร็จครับ
ครั้งนี้ตั้งใจไปลองใหม่ แต่ก็ยังจดทะเบียนสมรสไม่ได้ครับ !!!
ครั้งที่แล้วผมกับแฟนไปขอจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ที่เขตยอดนิยมอย่างบางรักมาครับ แต่ด้วยที่ผมเป็นชาวต่างชาติจึงไม่สามารถจดทะเบียนได้ครับ
แฟนผมแค้นครับ ความตั้งใจเดิมของเธอที่อยากจดทะเบียนที่เขตบางรักก็ล้มเลิกไป ฮ่าๆ
ดังนั้นพวกเราจึงตั้งใจใหม่ว่าจะไปลองขอจดทะเบียนสมรสที่เขตอื่นแทน
แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง วันแห่งความซวยก็บังเกิดอีกครั้ง พวกเราจดทะเบียนสมรสไม่ได้ครับ!!!
ไปลองขอจดทะเบียนที่เขตวัฒนามาแต่ก็ถูกปฏิเสธ!
หลังจากครั้งแรกที่ไปขอจดทะเบียนวันวาเลนไทน์มาไม่สำเร็จ พอเริ่มทำใจได้ พวกเราก็มาลองขอจดทะเบียนที่ที่ว่าการเขตวัฒนาครับ
อรุณสวัสดิ์ครับ ผมคานาโอะครับ
เมื่อคืนผมกับแฟนทะเลาะกันเรื่องสถานที่จัดงานว่าจะจัดหรือไม่จัดที่ไหน จนเลยเถิดไปถึงขั้นจะจดหรือไม่จดทะเบียนสมรสเลยทีเดียว ทะเลาะกันจนถึงตอนเช้า
สุดท้ายผมก็เคลียร์กับแฟนได้ แต่กว่าเราจะไปถึงเขตวัฒนาก็ปาไป 8โมงครึ่ง
ซึ่งถือว่าสายแล้ว ผมรู้สึกกังวลครับ แต่ก็ต้องเดินหน้าต่อปรับอารมณ์ใหม่
จากทางหน้าตึกเข้าประตูทางเข้าด้านขวาครับ
เข้าไปแล้ว พวกเรารีบเดินหาเคาน์เตอร์รับจดทะเบียนสมรสทันที
แต่ พนักงานที่เคาน์เตอร์บอกว่า
“วันนี้คนที่มีอำนาจเซ็นต์ไม่อยู่ครับ จดไม่ได้ครับ”
“Mai Dai (ไม่ได้) krab”
……..
ผมรู้สึกได้ว่าวันซวยกำลังเริ่มต้นขึ้น?
ผมอยู่กรุงเทพมาเข้าปีที่ 4 แล้ว
ไอ้อาการลางสังหรณ์แบบนี้ไม่เคยผลาดครับ
วันนี้เป็นวันซวยแน่นอน
ต้องปรับอารมณ์ใหม่อีกรอบ ตั้งแต่ยังไม่ได้กินข้าวเช้ากันเลยทีเดียว
ขนาดแฟนผมยังพูดว่า
“หรือว่าจะซวยอีกแล้ว?”
ใช่เลยแหละ
มุ่งหน้าไปยังที่ว่าเขตพระโขนง
ก่อนออกไป พนักงานประจำเคาน์เตอร์ของเขตวัฒนาบอกเราว่า
“ถ้าที่เขตพระโขนงหรือบางรักมีคนที่มีอำนาจเซ็นต์อยู่แน่ๆkrab”
พอลองคิดดีๆพนักงานก็คงพูดปัดความรับผิดชอบไปอย่างนั้นแหละครับ แต่เราก็ตัดสินใจลองไปเขตพระโขนงดู
ตอนนั้นหน้าที่ว่าการเขตวัฒนาไม่มีรถแท็กซี่ผ่านมาสักคัน วันนี้เป็นวันแห่งความซวยขนาดเรียกแท็กซี่ยังไม่ได้เลยครับ
เราเลยขึ้นรถบัสแดงเพื่อไปลงสถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ แต่…
หลังคารถมันจะเตี้ยไปไหน..
นี่มันวันอะไรกันเนี่ย
หน้าถัดไป ไปลองขอจดทะเบียนที่เขตพระโขนง!
เราจะไปลองขอจดทะเบียนที่เขตพระโขนง และเขตต้องรับจดแน่ๆ!
ที่ว่าการเขตพระโขนง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเขตพระโขนง
ขนาดแฟนผมยังคิดว่าต้องอยู่สถานีรถไฟฟ้าพระโขนงแน่ๆ แต่…
สถานีที่ใกล้ที่สุดดันเป็น “อ่อนนุช” ซะงั้น!!!!
ไม่ใช่”พระโขนง” ว้อยยย!
แฟน:แหะๆ
เอาล่ะ ผมซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำใจ รีบปรับอารมณ์ใหม่และมาถึงสถานีอ่อนนุชจนได้
จากสถานีรถไฟฟ้าอ่อนนุช ใช้เวลาประมาณ 5นาที เราก็เดินมาถึงที่ว่าการเขตพระโขนงครับ
เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์บอกเราว่า “ถ้ามาทำเรื่องจดทะเบียนสมรส กรุณาเดินตามลูกศรสีแดงไปเลยค่ะ”
ค่อนข้างไกลทีเดียวครับ สัญลักษณ์เหมือนสูตรเล่นเกมส์RPG เลยครับ
ในที่สุดก็มาถึงแผนกจดทะเบียนครับ
เห็นคู่ตัวอย่างอยู่ข้างหน้าแล้ว!
ได้มาถึงหน้าโต๊ะเจ้าหน้าที่ซะที
ผมเริ่มกังวลเพราะรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ดูท่าทางไม่เป็นมิตรเลย ไอ้ลางสังหรณ์ไม่ดีมันมาอีกแล้ว
พอนั่งลงที่เก้าอี้ เจ้าหน้าที่ก็เริ่มตรวจสอบเอกสารครับ
ทันใดนั้น ดูเหมือนจะขาดเอกสารบางอย่าง เจ้าหน้าที่เริ่มรัวภาษาไทยใส่แฟนผม
ท่าทางวันนี้ก็คงจะไม่ได้ว่ะ
อะไรกัน บอกว่าผมขาดเอกสารรับรองหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)กับเอกสารรับรองใบทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น
ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ไม่ใช่แล้ววว..
เหมือนทอยลูกเต๋าลงช่อง “กลับไปจุดเริ่มต้นใหม่”ไม่จริงหน่า นี่มันจะซวยเกินไปแล้ว
ทั้งที่มีเอกสารรับรองคำแปล“หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด”อยู่แล้ว ยังจะต้องมีเอกสารรับรองคำแปลหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)กับเอกสารรับรองคำแปลใบทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่นอีก หมายความว่ายังไงกัน!?
ทั้งๆที่สถานทูตญี่ปุ่นเขียนอย่างเป็นทางการว่าใช้แค่เอกสารรับรองคำแปล“หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส” และ “หนังสือรับรองความเป็นโสด”เท่านั้น วาย ไทย พี๊เพิ๊ล?! (Why Thai People?!)
แล้วนี่ยังมาบอกอีกว่า จำเป็นต้องให้สถานกงสุลไทยรับรองคำแปลหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)กับเอกสารรับรองคำแปลใบทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น หมายความว่าต้องไปรับรองเอกสารที่สถานกงสุลอีกรอบเนี่ยนะ?
หลังจากต่อรองยืดเยื้อกับเจ้าหน้าที่อยู่นั้น
ฟางเส้นสุดท้ายของเราก็ขาดลงหลังจากที่ได้เห็น「เอกสารตัวอย่างที่ถูกต้อง」!!!
เจ้าหน้าที่คนไทย “อันนี้เป็นเอกสารตัวจริงของผู้ชายญี่ปุ่นที่แต่งงานกับผู้หญิงคนไทยเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ”
เจ้าหน้าที่เอาเอกสารที่มีการรับรองคำแปลหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)กับเอกสารรับรองคำแปลใบทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่นของจริงให้ดู
(ข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เจ้าหน้าที่ราชการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวประชาชนกันง่ายๆแบบนี้เลย)
ในประเทศไทย มักจะมีเคสที่ถ้าเอกสารไม่ตรงกับเอกสารที่ทางการมีอยู่ก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ก็จะไม่รับเรื่อง ยิ่งเป็นการเดินเรื่องกับหน่วยงานราชการยิ่งมีเคสแบบนี้เยอะครับ
“เอกสารมันมาเป็นแบบนี้ ก็ต้องมีการรับรอบแบบนี้ค่ะ”เป็นตรรกะงงๆ ที่ไม่สามารถอธิบายความสำคัญของเอกสารได้
วันนี้โคตรจะซวยเลย
พวกเรายังไม่หายข้องใจกับคำอธิบายของเจ้าหน้าที่เขต เลยโทรไปสอบถามทางสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย ได้ความว่า
“ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าพนักงานแต่ละเขตพื้นที่ครับ เอกสารที่ต้องการก็อาจจะไม่เหมือนกัน คุณสามารถไปจดทะเบียนที่เขตอื่นก็ได้ หรือรวบรวมเอกสารที่จำเป็นจะรับรองและมาที่สถานทูตอีกครั้ง”
ไปที่ว่าการเขตอื่น
เขตอื่นที่พอจะสามารถขอจดทะเบียนได้ ก็คงจะมีเขตบางรักที่คุ้นเคยกันดีครับ
พอลองโทรไปสอบถามที่เขตบางรัก เจ้าหน้าที่รับเรื่องบอกว่าวันนึงจะรับจดทะเบียนสมรสชาวต่างชาติเพียง 8 คู่
ซึ่งวันนี้ครบโควต้า 8 คู่แล้ว เป็นอันหมดสิทธิ์
สรุปคือเหมือนฉายหนังซ้ำ ครั้งนี้ก็จดทะเบียนไม่ได้ครับ
เสียเวลาครึ่งวันไปเปล่าๆ
ยิ่งไปกว่านั้นที่เหนื่อยหนักเลยคือสภาพจิตใจครับ
ครั้งต่อไป จะไปลองขอจดทะเบียนที่เขตบางรักครับ