จดทะเบียนสมรสสำเร็จแล้ว! ถึงแม้จะไปที่ว่าการเขตในกรุงเทพตั้ง 5 ครั้งกว่าจะได้ก็เถอะ


ผมจดทะเบียนสมรสกับแฟนคนไทยสำเร็จแล้วครับ!
ในที่สุดเราก็ได้รับการออกใบสำคัญการสมรสที่ไทยและเราได้เป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการแล้วครับ
ไปยื่นเรื่องที่ว่าการเขตนั้นทีนู้นทีรวมแล้วทั้งหมด 5 ที่ กว่าจะผ่านพ้นเกมส์แห่งอุปสรรคอันยาวนาน จนบรรลุความปรารถนา!

เรื่องราวครั้งก่อน

ผมรวบรวมเอาเรื่องตั้งแต่ตอนที่เราเจอกันจนถึงปัจจุบันไว้ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

  1. การเจอกันจากการที่เธอจีบผมก่อน
  2. ผมขอแฟนแต่งงาน
  3. ไปแนะนำตัวอย่างเป็นทางการกับพ่อแม่แฟน
  4. ไปยื่นขอเอกสารที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย
  5. ไปรับเอกสารที่สถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย
  6. ไปรับรองคำแปลเอกสารที่สถานกงสุลไทย
  7. ได้รับ EMS เอกสาร
  8. ลองไปขอจดทะเบียนสมรสในวันวาเลนไทน์ แต่ไม่สำเร็จ
  9. ลองไปขอจดทะเบียนสมรสที่เขตวัฒนา แต่ไม่สำเร็จ
  10. ลองไปขอจดทะเบียนสมรสที่เขตพระโขนง แต่ไม่สำเร็จ
  11. ไปที่ว่าการเขตบางรัก (บทความนี้)

ขนาดแค่รวบรวมเรื่องที่ผ่านมา ผมยังรู้สึกว่ามันช่างดูน่าปวดหัวเหลือเกิน แต่ของจริงก็ไม่ได้ยุ่งยากวุ่นวายขนาดนั้นครับ

หลังจากตอนที่ถูกปฏิเสธจากเขตวัฒนาว่า “Mai Dai Krab” (ไม่ได้ครับ) มา
ผมปลอบใจตัวเองว่าพระเจ้าคงประธานเรื่องราวให้ผมไว้เขียนลงบล็อกครับ ถ้าไม่คิดเช่นนั้นจิตใจผมคงแย่แน่

ครั้งก่อนที่ไปยื่นเรื่องที่เขตพระโขนง เจ้าหน้าที่คนไทย ขอเอกสารสำคัญอย่างอื่นอีก ยิ่งเพิ่มปัญหาให้เราเข้าไปอีกครับ

“ยังไงเขตเราก็ไม่รับเรื่อง พวกคุณลองไปที่เขตบางรักดูสิ”

เจ้าหน้าที่สวนกลับมาด้วยการ”บอกปัดให้ไปเขตอื่น
อย่างกับเป็นชื่อท่าปล่อยพลังในเกมส์ ผมหงุดหงิดมากจนอยากจะปล่อยท่าไม้ตายในเกมส์โปเกม่อนใส่เลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าจะเจออุปสรรคจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ในที่สุดเราก็จดทะเบียนสมรสได้สำเร็จครับ

ไปที่ว่าการเขตบางรักตั้งแต่ 7 โมงเช้า!

ที่ว่าการเขตบางรัก รองรับการจดทะเบียนให้แก่คู่สมรสชาวไทยกับชาวต่างชาติเพียงวันละ 8 คู่ ดังนั้นถ้าไม่ไปถึงตั้งแต่ก่อนเวลาทำการ อาจจะยื่นขอจดทะเบียนไม่ได้ครับ

พวกเราปรับอารมณ์ใหม่หลังจากผิดหวังมาจากครั้งก่อน วันนี้จึงลาหยุดครึ่งวันเช้าเพื่อทำเรื่องขอจดทะเบียนอีกครับ

อรุณสวัสดิ์ครับ ผมคานาโอะครับ
หน้าตาผมดูเหนื่อยล้าจากอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้น รวมถึงง่วงด้วยครับ
ผมมาถึงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสามย่าน ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุดที่จะไปยังที่ว่าการเขตบางรักครับ

จากนั้น นั่งแท็กซี่ต่อมายังที่ว่าการเขตบางรัก

ตอนนี้เป็นเวลา 7 โมงเช้า ครับ แต่…

เฮ้ย ต่อคิวกันอยู่เต็มเลยอ่ะ

แย่แล้ว รู้สึกถึงลางไม่ดี

นับดูคร่าวๆ ได้ไม่ถึง 8 คู่ พวกเราเลยเดินเข้าไปถามดูว่าคู่พวกเราอยู่ลำดับที่เท่าไหร่

แฟนผมถามปุ๊บ ก็ได้รับคำตอบยิงแสกหน้ากลับมา

“เค้าบอกว่าเราคู่ที่ 9 อ่ะ!!!”

คู่ที่ 9!!!”

วันนี้ก็ซวยอย่างไม่ต้องสงสัย

แค่ดูหน้าจากด้านข้างก็รู้แล้วว่าแฟนผมกำลังหงุดหงิดมาก

ถึงอย่างนั้น พวกเราก็ดูจะมีความหวังขึ้นมา

“คู่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นเหมือนเอกสารจะไม่ครบ ถ้าคู่นั้นเอกสารไม่ผ่าน คู่พวกคุณก็ Na Ja Dai”

“Na Ja Dai (น่าจะได้)” แปลได้แบบนั้นครับ

แล้วอะไรทำไมถึงแค่ 8 คู่เองอ่ะ
ลิมิเต็ด เอดิชั่น  รึไงวะเนี่ย

ผมเริ่มเคืองเรื่องการ “จำกัดแค่ 8 คู่” เลยตัดสินใจจะลองขอต่อรองกับเจ้าหน้าที่ว่าเพิ่มอีกสัก 1 คู่จะได้ไหม

ลองไปขอต่อรองกับผู้มีอำนาจเซ็นต์เอกสาร

พอเราลองถามหาคนที่มีอำนาจเซนต์เอกสารว่าอยู่ที่ไหน

“ตอนนี้ท่านนอนหลับอยู่ในรถ รอแปปนึงให้ท่านตื่นก่อนนะ”

ตื่นมาาา เร็วๆ

จะนอนอยู่หรือทำอะไรอยู่ก็ช่างเถอะ

ขอแค่  ตื่นมาาา เร็วๆหน่อยยยยยย

รอไปได้สักพัก เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ตื่น เราจึงลองขอต่อรองดู

“เกิน 8 คู่ไม่ได้จริงๆ Krab”

จริงเหรอวะเนี่ย

แต่แล้ว..

“ผมมีคนรู้จักที่มีอำนาจเซ็นต์อยู่เขตบางกอกน้อย เดี๋ยวจะลองติดต่อให้ดู”

โอ๊ย ผมรักเมืองไทย〜

พอติดต่อแล้ว ได้คำตอบกลับมาว่าที่เขตบางกอกน้อยไม่ได้จำกัดจำนวนคู่สมรสชาวไทยกับชาวต่างชาติว่าต้องไม่เกิน 8 คู่ต่อวัน ถ้าไปเขตนั้นแทนก็น่าจะได้

ผมคิดในใจ“อ้าว แล้วทำไมเขตบางรักถึงจำกัดแค่ 8 คู่วะ” แต่เลือกที่จะไม่พูดและไปเขตบางกอกน้อยอย่างสงบเงี่ยมแทน

หน้าถัดไป ไปเขตบางกอกน้อยและลองยื่นขอจดทะเบียนสมรส!

ไปเขตบางกอกน้อย

แฟนผมยังหงุดหงิดอยู่เรื่องที่แม้อุตส่าห์ตื่นมาตั้งแต่เช้าเพื่อมายังเขตบางรักแต่ก็ไม่ทันคิว 8 คู่ และยังไม่รู้ด้วยว่าถึงไปที่เขตบางกอกน้อยแล้วจะจดทะเบียนสมรสได้ไหม

หน้าตอนกำลังหงุดหงิดของแฟนผมน่ากลัวเกินไป เลยขอเซนเซอร์ไว้นะครับ

ไอ้การซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้ “ผมก็อยากจะขอบคุณที่ให้ผมมีเรื่องขำๆมาเขียนลงบล็อกได้”กลายเป็นรู้สึกว่าพระเจ้าประธานให้เสียอย่างนั้น

ระหว่างทางบนแท็กซี่ที่เรานั่งไปเขตบางกอกน้อย ผมก็ได้เอนเตอร์เทนแฟนที่กำลังหงุดหงิดหวังจะให้เธอหายเซ็งครับ

แต่ก็เอนเตอร์เทนไม่สำเร็จครับ 55

พอมองไปนอกหน้าต่างรถแท็กซี่ ผมเห็นคู่นกพิราบก็ได้แต่รู้สึกอิจฉาพวกมันมากครับ

ความรู้สึกที่ต้องมาอิจฉานกพิราบขนาดนี้ผมอยากจะให้ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย

ที่ตั้งของที่ว่าการเขตบางกอกน้อย อยู่ส่วนในสุดของซอยแบบชุมชนท้องถิ่น

ที่จอดรถมีรูปปั้นลิงปิดปากปิดตาปิดหูอยู่ครับ

จะดูสักกี่ทีก็เห็นเป็นกอลลิล่าครับ

ยิ่งไปกว่านั้นไอ้หัวนมนั่น ทำเอาผมรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมายังไงก็ไม่รู้

ถ้าให้เทียบความสะดวกและความพร้อมของเขตบางรักกับเขตบางกอกน้อยแล้ว ที่นี่ดูจะด้อยกว่าครับ

พอเข้าไปในที่ว่าการเขต พวกเราก็ตรงไปถามเรื่องขอจดทะเบียนสมรสทันที

หลังจากรับบัตรคิวและนั่งรอเจ้าหน้าที่เรียกเพียงครู่เดียว ก็ถึงตาเรา

เอกสารที่เขตพระโขนงบอกว่าจำเป็นต้องใช้ (เอกสารรับรองคำแปลหนังสือเดินทาง(พาสปอร์ต)กับเอกสารรับรองใบทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น) ก็ดูจะไม่จำเป็นต้องใช้ที่นี่ครับ

เอกสารที่ต้องใช้มีเพียง

  1. เอกสารรับรองคำแปลหนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรสและหนังสือรับรองความเป็นโสดที่ได้มาจากกรมการกงสุลไทย
  2. พาสปอร์ตและใบอนุญาตการทำงานของผม ตัวจริงและสำเนา
  3. บัตรประจำตัวประชาชนของแฟน ตัวจริงและสำเนา

ผมมอบหน้าที่กรอกเอกสารการขอจดทะเบียนสมรสเป็นภาษาไทยให้แฟนผมครับ

การกรอกใบคำร้องไม่มีปัญหาอะไร ในที่สุดผมก็ได้เห็นหน้าค่าตาทะเบียนสมรสของจริงแล้วครับ!!

แต่ก็เกิดปัญหาจนได้ครับ ต้องพาพยานและล่ามมาด้วยอย่างละ 1 คน (รวมเป็น2คน)

แบบนั้นผมก็ไม่ได้ดิ
ก็ที่ทำการเขตเปิดแค่วันธรรมดาอ่ะ

สรุปพวกเราก็พยายามต่อรองกับทางเจ้าหน้าที่ คำตอบที่ได้คือ “อ่ะ ก็ได้” แฟนผมทำหน้าที่เป็นล่ามให้ และให้เจ้าหน้าที่อีกคนลงชื่อเป็นพยานให้ครับ

การทำเรื่องขอจดทะเบียนที่ไทยนี่ขึ้นอยู่กับเขตและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ล้วนๆเลยครับ

ผลก็ออกมาตามนั้นครับ!

เจ้าหน้าที่จะออกใบทะเบียนสมรสให้หรือไม่!?

หน้าถัดไป ได้รับใบทะเบียนสมรส!!!

เจ้าหน้าที่ออกใบทะเบียนสมรสให้แล้วครับ

ในที่สุด!

ได้ใบทะเบียนสมรสของไทยมาแล้วครับ!

ในที่สุดครั้งนี้เราก็ได้รับทะเบียนสมรสมาอย่างง่ายดาย จนทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเหตุการณ์ที่ราวกับถูกสวรรค์กลั่นแกล้งที่ผ่านมาทั้งหมดเนี่ยมันคืออะไรกัน

ใบสำคัญการสมรสของไทย มี 1 ชุด 2 แผ่นครับ สามีและภรรยาสามารถแยกเก็บได้
และมีแฟ้มสำหรับใส่ทะเบียนสมรสราคา 290 บาทขาย ซึ่งผมก็ซื้อมาด้วยครับ

พวกเราดีใจกันใหญ่ที่ความปรารถนาบรรลุผลสำเร็จหลังจากฝ่าฟันกับอุปสรรคต่างๆกันมามากมาย

แฟนผมเจออะไรก็ดูจะสดใสสวยงามไปเสียทุกอย่าง ประทับใจแม้กระทั่งรถกระบะสีเขียว

แฟน: “อุ๊ยย สีเขียวสวยจังเลย〜!”

กะไว้แล้ววว

ส่วนผมพอเห็นอาการแฟนแบบนั้น ทำให้รู้สึกได้ว่าเราแต่งงานกันแล้วจริงๆ
หลังจากรู้สึกโล่งอก ก็เริ่มรู้สึกโล่งท้องครับ (หิว)

เราแวะกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านอาหารไทย ใกล้ๆกับที่ว่าการเขตบางกอกน้อย

ทางร้านใส่พริกไทยมาเสียจนผมไม่รับรู้รสชาติอะไรนอกจากพริกไทยครับแต่การที่ผมไม่ได้เป็นคนโสดอีกต่อไปแล้ว ทำให้อาหารรสชาติพิเศษขึ้นมาเล็กน้อย

เอาล่ะครับ ถึงแม้เรื่องการจดทะเบียนสมรสที่ไทยจะเสร็จสิ้นแล้ว ผมยังต้องทำเรื่องทางฝั่งญี่ปุ่นต่อ
ในกรณีของผม ผมต้องไปทำเรื่องต่อที่สถานทูตญี่ปุ่นในไทยครับ

ผมขอลาหยุดมาเพียงครึ่งวันเช้า ดังนั้นต้องรีบไปสถานทูตญี่ปุ่นต่อเลยครับ

ไปสถานทูตญี่ปุ่น ยื่นใบทะเบียนสมรส

แฟ้มที่เราถืออยู่คือใบสำคัญการสมรสฝั่งไทยที่ไปจดทะเบียนมาเมื่อสักครู่นี้ครับ ตอนนี้จำเป็นต้องมายื่นทะเบียนสมรสเพื่อรายงานทางฝั่งญี่ปุ่นครับ
หลังจากได้รับการออกใบสำคัญการสมรสแล้ว จำเป็นต้องดำเนินเอกสารภายใน 3 เดือนครับ

เอกสารที่จำเป็น

  1. ใบสำคัญการสมรส
  2. ใบทะเบียนบ้านของแฟน
  3. ตัวจริงและสำเนา

  4. เอกสารที่เขียนไว้ข้างบนทั้ง2อย่าง แปลเป็นภาษาญี่ปุ่น
  5. ครั้งก่อนที่ผมมารับเอกสารรับรอง”หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส”และ”หนังสือรับรองความเป็นโสด”ที่สถานทูตญี่ปุ่นผมได้รับตัวอย่างการกรอกเอกสารมาด้วยครับ

    แฟนผมสามารถแปลเอกสารได้ เราจึงแปลเอกสารกันเองซึ่งก็โอเคครับ ไม่มีปัญหา

  6. ใบทะเบียนครอบครัวญี่ปุ่น 2 ชุด
  7. ใบขอยื่นจดทะเบียนสมรสญี่ปุ่น
  8. ตอนที่ผมมารับเอกสารรับรอง”หนังสือปฏิญาณคุณสมบัติในการสมรส”และ”หนังสือรับรองความเป็นโสด”ที่สถานทูตญี่ปุ่น ผมได้เอกสารตัวนี้มาด้วยครับ

  9. ตราประทับ(อินคัง) ที่ใช้ประทับในใบจดทะเบียนสมรสญี่ปุ่น

ผมกรอกเอกสารเตรียมไว้ตั้งแต่คืนก่อนครับ

การแต่งงานระหว่างคนไทยและคนญี่ปุ่น สามีภรรยาสามารถใช้คนละนามสกุลได้ครับ

รวบรวมเอกสารทั้งหมดแล้ว ก็กดรับบัตรคิวที่ปุ่ม (D) ครับ

รอคิวได้สักครู่ เจ้าหน้าที่ก็เรียกไปที่เคาน์เตอร์เพื่อยื่นเอกสารครับ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะเชิญให้มานั่งรอในห้องสัมภาษณ์

พอเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตรวจสอบเอกสารเสร็จ ขั้นตอนการยื่นเรื่องจดทะเบียนทางฝั่งญี่ปุ่นก็ถือว่าเสร็จสิ้นครับ

การแต่งงานจำเป็นต้องทำใบสำมะโนครัวญี่ปุ่นใหม่(จะมีการระบุชื่อภรรยา/สามีลงไปด้วย)

ดังนั้นในกรณีของผมยื่นทำเรื่องจากสถานทูตญี่ปุ่นในประเทศไทย กว่าเรื่องจะส่งถึงญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เวลาพอสมควร โดยอย่างเร็วที่สุดประมาณ 1 เดือนครึ่งครับ

เท่านี้ ก็ถือว่าการดำเนินเรื่องแต่งงานระหว่างคนไทยกับคนญี่ปุ่นของผมเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ครับ

นาน

มันช่างยาวนานเหลือเกิน

ตั้งแต่ผมตัดสินใจจะแต่งงานและขอแฟนแต่งงานจนถึงตอนนี้ใช้เวลาถึง 2 เดือนเลยครับ

ไม่ใช่แค่ใช้เวลานานเท่านั้น สภาพจิตใจยังเหนื่อยล้าด้วยครับ
ในทางกลับกันผมคิดว่าการที่เราผ่านอุปสรรคและความเหนื่อยล้านี้มาได้ จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาของเราแน่นแฟ้นและแข็งแกร่ง

พูดได้ไม่ทันขาดคำ เราก็มาทะเลาะกันเรื่อง”ใครจะเป็นคนตากผ้า” เสียแล้วครับ

การแต่งงานกับคนไทย เรื่องราวส่วนใหญ่คือรวบรวมขั้นตอนการเดินเรื่องการแต่งงานระหว่างประเทศของคนไทยกับคนญี่ปุ่นก็จริงครับ แต่ยังไม่ได้จบเพียงเท่านี้ ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่น่าจะเกิดขึ้นอีก

ดังนั้นผมยังคิดว่าจะเขียนหัวข้อนี้ต่อไปครับ

タイ人と国際結婚カテゴリの最新記事